The Show : To be a performer No matter what, the show must go on (TH)
- Skw
- May 8, 2019
- 1 min read
Updated: Jul 14, 2020
อย่างที่เขาพูดกันให้ได้ยินบ่อย ๆ
ถ้าเราอยากเป็นนักแสดงมืออาชีพ ให้ตายยังไงโชว์ของเราก็ต้องไปต่อ
พอถึงตรงนั้นแล้วเราก็คงจะไม่มีโอกาสได้ไปพูดให้ทุกคนฟังว่าระหว่างทางก่อนโชว์นั้นเราต้องเจอกับอะไรมา เกิดอะไรขึ้น จะเลิกกับแฟน หมาตาย ใครตาย ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้อง กลางคืนไม่ได้นอน เวียนหัว เจ็บคอ ร้อนใน เป็นไข้ อาหารเป็นพิษ ความดันตก เครียด ดิ่ง ดาวน์ เพิ่งร้องไห้มาสามชั่วโมงติด ๆ เสียงอู้อี้ วอร์มไม่ไหว/วอร์มไม่ทัน มึนยา หูดับ ไม่ได้นอนมาสองวันเต็ม ๆ หรือปัญหาระหว่างการแสดง ฯลฯ (ไอ้ที่ยกตัวอย่างมาจริง ๆ มันเคยเกิดขึ้นมาหมดแล้ว)
เอาง่าย ๆ คือขึ้นไปอยู่บนนั้นแล้วเราก็ไม่มีสิทธิ์มาคอยแก้ตัวหรือบอกผู้ชมแล้วว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตเราบ้าง อะไรที่ทำให้เราไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจต้องการให้มันเป็น
ใดใดก็ตาม คนดูไม่มารับรู้กับเรา เขาไม่จำเป็นที่จะต้องรู้
(แต่เราอยากเล่า เราเลยทำบล็อกแยกไว้จะได้ไม่เลอะเทอะมาก555555)
หรือเขาเองก็ไม่ได้อยากรู้
ฟังดูเหมือนจะใจร้ายแต่ก็จริง
ถ้าเราทำมันออกมาได้ไม่ดีอย่างที่คาดหวังก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนเป็นกันหมด
คำว่า "ทำดีที่สุดแล้ว" ไม่ได้แปลว่าที่เราทำมันต้องดีมากแบบเป็นสถิติสูงสุดในชีวิตหรือว่าดีกว่าทุกคนในโลก อันนั้นคงกดดันตัวเองมากเกินไป
อนุญาตตัวเองให้ appreciate กับความสามารถของตัวเองมากกว่านั้นหน่อยได้ไหม
การที่เราทำดีที่สุดแล้ว จริง ๆ มันก็อาจจะแค่หมายความว่า ณ วินาทีนั้น ณ ที่ตรงนั้น สถานการณ์ชีวิตแบบในช่วงเวลานั้นเราก็ได้ทำเต็มที่ของเราแล้ว
ถ้ามันยังดีไม่พอสำหรับคนอื่นก็คงจะต้องช่างมัน ถ้ามันวิกฤตมากจนรับไม่ได้ก็ให้ถือว่าเป็นบทเรียน
ไว้คราวหน้าเอาใหม่นะ
ก็ไม่ได้แสดงเสร็จแล้วตายเลยนี่
ยังไงก็ต้องไปต่อ
...ฟังดูประมาทหรอ ก็ถ้าเล่นดีที่สุดแล้วตายจะเสียดายทำไม
หน้าที่ของเรา ณ เวลานั้นคืออยู่กับสิ่งที่เราต้องเล่น ต้องแสดง ไม่ว่าความตั้งใจของเราจะเป็นการรับใช้งานศิลปะแบบถวายชีวิต สวมบทเป็นเพียงผู้ส่งสาร หรือจะเป็นสตาร์ที่ยืนอยู่ตรงเซ็นเตอร์ของเวทีแล้วให้ศิลปะช่วยซัพพอร์ตเราหรือจะเป็นนักเรียนดนตรีที่กำลังจะสอบ จะอะไรก็แล้วแต่บริบท นั่นก็เรื่องของเรา ก็แค่ต้องหาที่ยึดเหนี่ยวก่อนว่าจะทำอะไร
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เราคิดว่าถ้าเราทำดีสุดแล้ว ยังไงมันก็ส่งไปถึงคนดูแหละ ส่วนเขาจะชื่นชมสิ่งที่เราทำมากแค่ไหนมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับเราคนเดียว ดังนั้นเราก็ทำในขอบเขตที่เราควบคุมได้ให้ดีก็พอแล้ว
ไปต่อเถอะนะ
Comments