top of page

2. Yearning for something unexplainable

Drei Lieder, Op.3a

16375.jpg

ชุดบทเพลงจากบทกวีภาษาเยอรมัน 3 บทจากที่มาที่แตกต่างกัน กวีจากบทเพลงแรกประพันธ์โดย  Emanuel von Geibel, เพลงที่สองเป็นกวีของ Johann Wolfgang von Goethe และบทเพลงที่สามเป็นบทกวีโดย Heinrich Heine  และนำมาเรียบเรียงใส่ดนตรีโดย Adolf Busch

เสน่ห์ของ lieder หรือ art song ทั้งของเยอรมัน และเกือบทั่วโลกคือบทกวีที่สามารถตีความได้อย่างแทบจะเป็นอิสระ เราจะเลือกถ่ายทอดในฐานะผู้บรรยายเหตุการณ์ บุคคลที่สาม หรือจะสวมบทบาทเป็นตัวละครในนั้นเลยก็ได้ เรานำการแสดงชุดนี้มาเชื่อมโยงกับความรู้สึกที่เหมือนกับภวังค์ ความต้องการที่ไม่สามารถอธิบาย 

บทเพลงจากกวีสามเพลงในภาษาเยอรมันชุดนี้ถ้าเทียบพลังงานกับพีซอื่น อาจจะไม่ได้รู้สึกว่าตรงคอนเซปต์ของการ suffer มากนัก แต่จะตีความว่าเพลงนี้มีความสุขก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ มีความใกล้เคียงกับเพลงภาษารัสเซียเซ็ทแรก มี การเปลี่ยนคีย์สั้น ๆ และคู่เสียงที่ไม่ได้ฟังง่าย (ตั้งข้อสังเกตว่าเพลงร้องศิลป์หรือเพลงที่ประพันธ์ขึ้นโดยมีแรงบันดาลใจจากบทกวีมักมีลักษณะร่วมกันแบบข้างต้นคือการ modulate ที่อธิบายยาก คู่เสียงแปลก ๆ ยิ่งพอดูประกอบกับตัว text ก็จะเห็นว่าหลายครั้งเป็นความตั้งใจของผู้ประพันธ์ที่จะเน้นย้ำคำบางคำหรือขับเคลื่อนบางประโยค)

 

Nun die schatten dunkeln

Nun die Schatten dunkeln,

Stern an Stern erwacht:

Welch ein Hauch der Sehnsucht

Flutet in der Nacht!

Durch das Meer der Träume

Steuert ohne Ruh',

Steuert meine Seele

Deiner Seele zu.

Die sich dir ergeben,

Nimm sie ganz dahin!

Ach, du weißt, daß nimmer

Ich mein eigen bin.

ในตอนนี้ เงากำลังมืดลง

ดวงดาวค่อย ๆ ตื่นขึ้น

ลมหายใจของความปรารถนา

ท่วมท้นตลอดทั้งคืน

จิตวิญญาณของฉันได้โลดแล่น

ข้ามทะเลแห่งความฝันไป

อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ไปสู่จิตวิญญาณของคุณ

ไม่ว่าสิ่งใดที่ยอมจำนนต่อคุณ

ล้วนมีไว้เพื่อถูกนำไป

คุณรู้ใช่ไหม ว่าฉันไม่ใช่ตัวเองอีกต่อไป

Wonne der Wehmut

Trocknet nicht, trocknet nicht,

Tränen der ewigen Liebe!

Ach, nur dem halbgetrockneten Auge 

Wie öde, wie tot die Welt ihm erscheint! 

Trocknet nicht, trocknet nicht,

Tränen unglücklicher Liebe!

 

อย่าได้แห้งเหือดไปเลย

น้ำตาแห่งรักนิรันดร์

แม้ว่าดวงตาจะเริ่มแห้ง

ความอ้างว้าง ความตายที่ปรากฎขึ้น

บนโลกใบนี้

อย่าได้แห้งเหือดไปเลย

น้ำตาของรักที่ไม่สมหวัง

 

Aus den Himmelsaugen droben

Aus den Himmelsaugen droben

Fallen zitternd goldne Funken

Durch die Nacht, und meine Seele

Dehnt sich liebeweit und weiter.

O ihr Himmelsaugen droben!

Weint euch aus in meine Seele,

Daß von lichten Sternentränen

Überfließet meine Seele.

 

ดวงตาจากเบื้องบน

สาดแส่งระยิบระยับลงมา

ตลอดทั้งคืน

และจิตวิญญาณของฉันก็แผ่ความรักของตัวเอง ไกล และไกลขึ้น

ดวงตาจากเบื้องบน

ร่ำไห้มาจนถึงวิญญาณของฉัน

เหมือนแสงดาวกำลังสะอื้น

แสงนั้นส่องมาถึงดวงวิญญาณของฉัน

 

เหตุผลที่เลือกโยงเพลงชุดนี้เข้ากับความทุกข์นั้นมีเหตุผลส่วนตัวคือความงดงามของมัน ในคืนหนึ่งเราเคยเสียน้ำตาให้กับเพลงในเซ็ทนี้โดยที่เราเองก็ยังอธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไร หลายจุดสามารถตีความออกมาเป็นความสุขเสียด้วยซ้ำ ทว่าเพลงในเซ้ทนี้ในภาพรวมกลับทำให้เรารู้สึกถึงความโหยหาอย่างแรงกล้า แม้ไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ด้วยภาษา

 

ศัพท์ในกวีบางคำที่แปลภาษาไทยออกมาก็ไม่ได้ถูกต้องตามความหมายที่แท้จริงของมัน เช่น คำว่า Sehnsucht ในเพลงแรกที่ไม่สามารถหาคำศัพท์ภาษาอื่นมาอธิบายได้ เป็นความปรารถนา แต่มีความลุ่มลึกมากกว่าความต้องการทั่วไป

สำหรับเพลงที่สอง เพียงแค่คีย์เวิร์ดรักที่ไม่สมหวัง/รักที่ไม่เป็นสุข ก็สามารถที่จะนำเข้ามาใช้ร่วมคอนเซ็ปต์ได้ ความรักที่ไม่เป็นสุข และไม่สมหวัง หากเราอายุน้อยหรือยังอ่อนประสบการณ์เกี่ยวกับความรัก เราอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย แต่หากผ่านความรักมาในระดับหนึ่งมันคือเรื่องธรรมดา ในความเป็นจริงแล้วความรักที่ไม่เป็นสุขมีมากกว่าความรักที่สมหวังและเป็นสุขเสียอีก 

 

Adolf Busch

(Aug. 8, 1891 - Jun. 9, 1952)

adolfBusch.jpg

อดอล์ฟ จอร์จ วิลเฮล์ม บุช วาทยกรและนักไวโอลินชาวเยอรมัน เป็นคอนเสิร์ตมาสเตอร์ของ Vienna Konzertverein เมื่ออายุ 20 หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง หลังถูกนาซีห้ามไม่ให้แสดงดนตรีกับลูกเขยชาวยิว เขาได้ย้ายไปอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์, อังกฤษ และอเมริกา และได้ดำรงตำแหน่งวาทยกรในการแสดงครั้งสำคัญมากมาย เขาเกิดในครอบครัวนักดนตรี พี่ชายของเขาคือคอนดัคเตอร์ฟริทซ์ บุช เขาเริ่มเรียนไวโอลินเมื่อตอนอายุ 3 ขวบ และเข้าเรียนที่โรงเรียนดนตรีที่โคโลญเมื่ออายุ 11 เขาเรียนการคอนดัคกับฟริทซ์ ชไตน์บาค ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน และเริ่มเรียนการประพันธ์ดนตรีกับฮิวโก กรูเตอร์ ในปี 1907 เขาเริ่มติดต่อและร่วมงานกับนักประพันธ์เพลงมากซ์ เรการ์ และเป็นหัวหน้าวงออร์เคสตราเวียนนาในปี 1912 และในอีกหกปีต่อมาก่อตั้งวงบุชควอเตทที่มีชื่อเสียง ในช่วงวัยผู้ใหญ่เขาได้ร่วมงานกับนักดนตรีมากมายและเริ่มเป็นที่รู้จัก นอกจากนั้นยังสอนดนตรี ซึ่งหนึ่งในนักเรียนของเขาที่มีชื่อเสียงคือเยฮูดิ เมนูฮิน

Emanuel Geibel

(October 17, 1815 - April 6, 1884)

geibel.jpg

เอมมานูเอล ฟอน ไกเบล เป็นนักกวี และนักเขียนบทละครชาวเยอรมัน เกิดที่เมืองลือเบกค์ เป็นบุตรชายของบาทหลวง

เดิมทีเขาตั้งใจที่จะทำอาชีพเดียวกันกับพ่อของเขาและเข้าเรียนที่กรุงบอนน์และกรุงเบอร์ลิน แต่ความสนใจของไกเบลนั้นไม่ใช่ทางเทววิทยา หากแต่เป็นเรื่องของการใช้ภาษา ในปี 1838 เขารับสอนหนังสือในเอเธนส์จนถึง 1840 งานกวีแรก ๆ ของเขาถูกตีพิมพ์ในชื่อ Zeitstimmen ในปี 1841 และอีกหนึ่งปีต่อมาก็เข้ารับราชการกับเฟรเดอริค วิลเลียมที่ 4 แห่งราชอาณาจักรปรัสเซีย ด้วยเงินตอบแทน 300 ธาเลอร์ ซึ่งในช่วงนั้นเองที่เขาเขียนโศกนาฏกรรมเรื่อง König Roderich (1843), มหากาพย์ König Sigurds Brautfahrt (1846), และคำร้องเพลง Juniuslieder (1848)

Johann Wolfgang von Goethe

( August 28, 1749 - March 22, 1832)

Goethe.jfif

โยฮานน์ โวล์ฟกัง ฟอน เกอเธ่ เป็นนักกวี, นักเขียนบทละคร, นักเขียนนิยาย และนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน เขาได้รับการยกย่องเป็นบุคคลต้นแบบของทุกยุคสมัย งานเขียนของเขาถูกยกให้เป็น "งานคลาสสิค" ในยุโรป เป็นตัวแทนแห่งยุคโรแมนติกที่หาที่เปรียบไม่ได้ สำหรับสถานะของเขาเทียบเท่ากับวิลเลียม เชคสเปียร์ในยุคเรเนซองส์ และดันเต ในยุคกลาง บทประพันธ์เรื่องเฟาสท์ของเกอเธ่ เหมาะแก่การนำมาแสดงและกลายเป็นอีกหนึ่งบทประพันธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของยุโรป เหมือนกับสวรรค์หาย ของจอห์น มิลตัน และไตรภูมิดันเต ของดันเต 

Heinrich Heine

(December 13, 1797 - February 17, 1856)

Heinrich-Heine-1827.jpg

ไฮน์ริช ไฮน์ เกิดที่เมืองดึสเซิลดอร์ฟ เยอรมนี มาจากครอบครัวชาวยิว เขาศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่บอนน์, เกิททิงเงิน และเบอร์ลิน เพื่อศึกษากฎหมาย แต่ที่จริงแล้วเขาให้ความสนใจกับวรรณกรรมและกวีมากกว่า งานเขียนของไฮน์แม้จะอยู่ในยุคโรแมนติก แต่ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นงานที่มีความโมเดิร์น จะเรียกว่า post-Romantic crisis ก็ได้ สำนวนการใช้ภาษาที่วาดภาพถึงจินตนิยม แต่เมื่ออ่านซ้ำอีกในครั้งถัดไปเราจะพบกับความเป็นจริงที่โหดร้าย

bottom of page